เรื่องที่อาจจะแย่ หลังการรับงาน

• ไลป์ซิก และ แฟนบอล

อันดับ 1 ของกลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบทางลบอย่างสิ้นเชิง มันคือสโมสร ไลป์ซิก และแฟนบอล เพราะพวกเขาต้องสูญเสียโค้ชที่ดี ไปให้ทีมคู่แข่ง ในการคว้าแชมป์ร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของ Julian Nagelsmann มันยังได้รับการยกย่องว่า เป็นโค้ชหนุ่มที่มีพลังที่ดีที่สุด ในยุคนี้เช่นกันด้วยอายุ 33 ปี

และในช่วงสองปีที่ Red Bulls Arena นาเกลส์มันน์ บุคคลที่สามารถ ช่วยยกระดับของทีมได้มาก ควบคู่ไปกับการสร้างไลป์ซิก ให้กลายเป็นสโมสรใหญ่ของยุโรป อย่างเต็มตัวเมื่อปีที่แล้ว สามารถเข้าถึงรอบรองของยูซีแอล

และในปีนี้ ยังคงเป็นทีมหัว ๆ ของบุนเดสลีก้า เขาเป็นคนที่ทำให้ไลป์ซิก ลดช่องว่างลง และระยะทางใกล้เข้ามา กับทีมอันดับ 1 บาเยิร์น ที่มากมากกว่าดอร์ทมุนด์

• โธมัส มุลเลอร์

อิทธิพลของ Thomas Muller ต่อบาเยิร์นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับอย่างแน่นอน แต่คำถาม คือ ในวัยของ Julian Nagelsmann และเมื่ออายุ 31 ปี เจ้าตัว จะยังคงเป็นตัวสำคัญ สำหรับทีมอยู่หรือไม่ จริงอยู่ ในแผน  3- 4 – 1 – 2 ที่จูเลี่ยนใช้เป็นหลัก มุลเลอร์ ยังเป็นกองกลางตัวรุก หลังกองหน้า หรือลงเป็นหน้าคู่กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นกัน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการบ่งชี้อย่างต่อเนื่องว่า

โค้ชคนใหม่ หรือคนวงในที่ไม่ใช่บาเยิร์น ส่วนใหญ่แทบไม่ได้มอง ไปที่มุลเลอร์ในแผนของพวกเขา มีกี่ทีม และในขณะเดียวกัน Julian Nagelsmann ยังเป็นโค้ช ที่ให้ความสำคัญกับ ผู้เล่นอายุน้อยจำนวนมาก บางทีในฐานะกองกลางตัวรุก ตัวสำรองอาจเลือก ที่จะผลักดัน Jamal Musiela อย่างเต็มตัว จึงกลายเป็นเรื่องที่เรา จะต้องเฝ้าดู

• ผู้เล่นตำแหน่งปีก

อีกกลุ่มที่น่าจะมีผลกระทบมากคือผู้เล่นปีกที่ต้องแข่งขันเพื่อเอาชนะใจของ Julian Nagelsmann ไม่ว่าจะเป็น Kingsley Goman, Leroy Sane หรือ แม้จะมีเซอร์เกนาบรี แต่นี่คือ 3 แนวรุกที่ได้รับโอกาสมากมาย ในการเข้าเล่นในเวลา เมื่อพูดถึงเฉพาะฤดูกาล 2020-21 เท่านั้น แต่ในระบบแผนของ Julian Nagelsmann ดูเหมือนว่าหากทุกคนต้องการโอกาสอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะต้องเปลี่ยนแนวทาง ในการเล่นกาบทั้ง 2 ข้างใหม่

ซึ่งเน้นเกมรุกเต็มศักยภาพ มีบทบาทในตำแหน่งวิงแบ็ค ที่ต้องผ่านทั้งสกิล ในการเติมเกมรุก และช่วยป้องกัน โดยส่วนตัวแล้ว เซอร์ เกนาบรี เคยทำงานร่วมกับ นาเกลส์มันน์ มาก่อน ฮอฟเฟนไฮม์ และมีฤดูกาลที่ดีเช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่เครื่องการันตี ว่าเขาจะได้รับสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่น แต่อย่างใด เพราะบทบาทในครั้งนี้ จะแตกต่างออกไป

หรือไม่ทุกคนก็อาจจะ ต้องอกหักไปด้วยกัน อย่างน้อยก็ทางฝั่งซ้าย เพราะ Alphonso Davis ดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และเข้าข่ายทุกคน ในการเป็นแบ็คซ้าย แต่มีทักษะการเติมเกมรุกที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีความสดใหม่ ที่ดีกว่า สำหรับทางด้านขวาบางทีตำแหน่งนี้ ก็ไม่มีใครดีไปกว่า Benjamin Pavar เช่นกัน ฉันขอบอกว่างานนี้ ไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบง่าย ๆ สำหรับ 3 คนนี้

เรื่องที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

• บาเยิร์น มิวนิค

ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ บาเยิร์น ได้เติมเต็มความฝัน และความฝันของพวกเขา เป็นเรื่องที่ดีในการยึดมาเป็นเกียรติ ของคู่ต่อสู้ เพื่อเป็นกำลังในการรุก ที่ยิ่งใหญ่สำหรับทีมของพวกเขาเอง อย่างที่บอกไปว่า Nagelsmann ได้รับการยกให้เป็นเมเนเจอร์วัยหนุ่ม ที่มีพลังมากที่สุด ในยุคนี้ โปรไฟล์ที่สร้างร่วมกับ ไลป์ซิก มานานกว่าสองปี จนกระทั่งคู่ต่อสู้หมายเลข 1 ของบาเยิร์น แซงดอร์ทมุนด์ไปแล้ว

สำหรับนาเกลส์มันน์ เขามีความโดดเด่นในเรื่องแท็กติก และมุ่งเน้นไปที่การเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งในทีมตัวเอง และคู่แข่ง ก่อนที่จะนำมาวิเคราะห์ในเชิงลึก จนกลายเป็นการเลือกชิ้นส่วน และแผนการเล่นที่ดีที่สุด สำหรับแต่ละนัด ที่ทำให้เขาได้รับฉายาว่า มินิมูรินโญ่ มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้บาเยิร์นชอบ และอยากให้ผู้จัดการทีมคนนี้อยู่ที่นั่น

• ดาโยต์ อูปาเมกาโน่

Dayot Upamegano ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นเซ็นเตอร์แบ็คหน้าใหม่ ที่มีแนวโน้มและสมบูรณ์แบบที่สุดในยุคนี้ และความจริงที่ว่าทีมใหญ่ ๆ ที่น่าสนใจในตัวเขาก็ไม่ได้แปลกอะไรกับยุคของ Julian Nagelsmann ที่ Leipzig , Upamegano ที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก และเป็นตัวหลักของทีม ตลอดช่วงที่ผ่านมา

การย้ายไปบาเยิร์นครั้งนี้ หมายความว่าทั้งสองจะได้เป็นตัวขับเคลื่อนของทีม ในปีหน้าด้วยกัน และแน่นอนเมื่อ Julian มีคู่มือการใช้งาน และรู้จักผู้เล่นเป็นอย่างดี มั่นใจได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ น่าจะมีโอกาสอยู่ต่อแน่นอน

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย