ตัวเต็งแชมป์ยูซีแอล 2021 หลังจากเหลือเพียง 8 ทีมสุดท้าย และแบ่งสายแล้ว

ตัวเต็งแชมป์ยูซีแอล 2021 จบลงไปแล้วสำหรับศึกยูซีแอล ในรอบ 16 ทีม แน่นอนว่า จะมีทีมที่สมหวังในการผ่านเข้ารอบต่อไป กับอีกกลุ่มน้ำตาไหล ย้อนไปเมื่อต้นซีซั่น ในกรณีที่เขามีโอกาสกลับมาชินชาอีกครั้ง แปดทีม ที่เข้าสู่รอบก่อนรอง

ประกอบด้วย ลิเวอร์พูล , เชลซี , แมนซิตี้ , รีล มาดริด , บาเยิร์น มิวนิค , ดอร์ทมุนด์ , Paris Saint-Germain และ Porto ปรากฏว่ารอบนี้ มีทีมจากแดนผู้ดี ผ่านเข้ารอบ 3 ทีม มากที่สุด ในขณะที่ ลาลีกา เหลือ เรอัล มาดริด เพียงทีมเดียว

ในการแข่งขันเพื่อคว้าถ้วยยูซีแอล ส่วนแชมป์ปีที่แล้ว ” บาเยิร์น ” ยังอยู่ในเส้นทางเดิม มา วิเคราะห์ทีมเต็ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เพื่อดูว่า ทีมใดมีโอกาส เอาชนะอุปสรรค และก้าวขึ้นสู่แชมป์ ในฤดูกาลนี้ แต่ละทีมมีดีอย่างไรบ้าง ได้วิเคราะห์กัน

ตัวเต็งแชมป์ยูซีแอล 2021

ตัวเต็งแชมป์ยูซีแอล 2021 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ( พรีเมียร์ลีก )

เต็ง 1 ที่ราคาเหนือกว่า แต่เพียงผู้เดียว เพราะผลงานบวกกับสมองของ Pep Guardiola มันแสดงให้เห็นในสนาม ว่าพวกเขาสมควรที่จะเป็นผู้นำ ในกราฟความน่าจะเป็น ยิ่งไปกว่านั้น สถิติในฤดูกาลนี้บ่งชี้ว่าทัพ ” เรือใบสีฟ้า ” แข็งแกร่งมาก

โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรับ ที่เพิ่งเสียไปเพียงประตูเดียว ในยูซีแอลซีซั่นนี้ และด้วยความตั้งใจของเป๊ป ที่ต้องการพาเรือลำนี้ ไปถึงฝั่งฝัน และคว้าถ้วยรางวัลบิ๊กเอียร์มาครองได้สำเร็จ ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนพลังบวก ที่ทำให้พวกเขา มีความกระหายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

และอีกอย่าง คือ ตอนนี้พวกเขาสามารถมีสมาธิ กับการติดตามชมการแสดงได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากคะแนนในลีก ค่อนข้างห่างจากอันดับ 2 อยู่พอสมควร จึงเป็นโอกาสที่พวกเขา จะพบเจอกับความสำเร็จ ได้อย่างที่ใจต้องการ

ปารีส แซงต์ – แชร์กแมง ( ลีกเอิง )

การแพ้ในนัดชิง เมื่อปีที่แล้ว ยังคงตั้งเป้าที่สำคัญ ที่จะเป็นมงกุฎแห่งยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของทีม ที่จะสามารถเข้าถึง และได้รับการดูแลสักครั้ง และแน่นอนว่าการเอาชนะ เจ้าบุญทุ่ม ในรอบที่แล้ว ถือเป็นการกระตุ้นที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา

และไม่ใช่เรื่องยากที่จะเอาชนะ เพราะน่าจะจบลงแล้วตั้งเกมแรก ที่บุกไปเยือนคัมป์นู 1 – 4 เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้พวกเขาถูกมองว่า เป็นทีมทีเด็ดสามที่เบียดเข้าสู่ตำแหน่งแชมป์ ซึ่งหากดูแล้ว อันดับตัวเต็งที่ได้มานั้น ไม่แปลกนัก เมื่อหันไปมองถึงคุณภาพ ของนักเตะที่ดีกว่าหลาย ๆ สโมสรในอดีต

ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยสนับสนุน ให้กองทัพแดนน้ำหอมของฝรั่งเศสมี โอกาสที่จะได้รับรางวัล Sioux Trophy ของแชมป์ อย่างไรก็ตาม วิธีที่เหลือไม่ใช่เรื่องง่าย หากคุณเสียตัวไม่สามารถรักษามาตรฐานเดียว กับเกมลีกเอิงได้ในตอนนี้ ก็มีโอกาสที่จะโบกมือลา เช่นกัน

บาเยิร์น มิวนิก ( บุนเดสลีก้า )

เจ้าของแชมป์เก่า ที่ยังคงความแข็งแกร่งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรุก ที่จะทำลายคู่แข่งได้อย่างน่าสะพรึง และ เลวานดอฟสกี้ ก็ไม่ได้มาตรฐานหลุดเลย ยังคงความเป็นนักฆ่า ที่สุดยอดเหมือนเดิม

ซึ่งกับแบรนด์ “เสือใต้” โดยที่ไม่มีใคร กล้าที่จะเถียงแน่นอนว่า เป็นเบอร์ 1 ของโลก เพราะมาตรฐานที่นักเตะ และ Hancy Flick ทำไว้มันยอดเยี่ยมจริง ๆ และเชื่อว่าในเวลานี้ ไม่มีใครอยากจับสลาก มาพบกับพวกเขาอย่างแน่นอน

และถึงตอนนี้ก็มีโอกาสไม่น้อย ที่พวกเขาจะสามารถป้องกันแชมป์ได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องไม่มีการหลงตัวเอง ว่าแกร่งที่สุด และควรประเมินคู่แข่งให้ดี ทุกอย่างล้วนเป็นผลลัพธ์ชุดเดียวกัน

เชลซี ( พรีเมียร์ลีก )

ทีมฟอร์มแรง ที่กลับมาได้รับการจับตามอง จากบรรดากูรู และแฟนบอลอีกครั้ง นับตั้งแต่ ทูเคิลเข้ามานั่งเก้าอี้ จนถึงจุดนี้นายใหญ่จากเมืองเบียร์คุม ” สิงห์บลู ” ไป 13 นัด ผลปรากฏว่าไร้พ่าย พร้อมกับเป็นสถิติของผู้จัดการทีมเชลซี ที่คุมทีมออกสตาร์ทได้ดีที่สุดอีกด้วย

แน่นอนว่า การผ่าน แอตฯ มาดริด ในรอบที่แล้ว ถือว่าเป็นผลงานที่ดีมาก นอกจากนี้ยังเป็นการชนะในบ้าน และขาไปอีกด้วย แถมยังรักษาคลีนชีตได้มากยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการให้กำลังใจและสร้างความมั่นใจ ให้กับพลพรรคนักเตะภายในทีม

ถึงตอนนี้พวกเขา ติดท็อปไฟว์ในรายการ แต่เมื่อดูจากผลงานต้องยอมรับว่า เชลซี กลายเป็นทีมที่น่ากลัว แถมฟุตบอลสไตล์ ก็เริ่มทำให้นักเตะซึมซับ ทำให้ตอนนี้ภาพของ ” สิงห์บลู ” ชัดเจนขึ้น และมีอนาคตที่จะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่สองอีกด้วย

เรอัล มาดริด ( ลาลีก้า )

ตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวจาก ลาลีกา ซึ่งไม่ค่อยมีใครจับตามองมากนัก ว่าจะถึงตำแหน่งแชมป์ เพราะด้วยปัจจัยด้านผลงาน การเล่นที่ไม่คงเส้นคงวา บวกกับนักเตะในทีม เข้าโรงพยาบาลเหมือนเดิม ทำให้ทีมไม่สามารถรักษามาตรฐาน ได้อย่างต่อเนื่อง

รอบที่ผ่านมาทัพ ” ราชันชุดขาว ” สามารถผ่านด่านอตาลันต้า ได้แบบไม่พลิกล็อก และไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากนัก เพราะด้วยความเก๋า และประสบการณ์ที่มีมากกว่าคู่แข่ง ทำให้สามารถกรุยทางเข้ามาได้ อย่างไม่เหนื่อยนัก แถมยังชนะได้ทั้งแบบไป – กลับ รวมจบสกอร์ 4-1 

ปัจจุบันพนันของประเทศนอก ตั้งไว้เป็น 5 เต็ง ที่จะมีโอกาสเสียบแชมป์ ซึ่งถือว่าน่าแปลกใจ เช่นกัน ที่ทีมของ ซีดานกลายเป็นทีมท้าย ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวบ่งบอก คือ ด้วยแบรนด์ของโค้ชมาดริด นั้นน่ากลัวอยู่เสมอ ซึ่งการันตีด้วยแชมป์ 3 สมัย และแน่นอนว่านี่ยังคงเป็นชื่อ ของพวกเขาอยู่หรือไม่ก็ประมาท

ลิเวอร์พูล ( พรีเมียร์ลีก )

แม้ว่าผลงานในเกมลีก อาจไม่เป็นที่ถูกใจเท่าไหร่นัก แต่สำหรับฟุตบอลถ้วย อย่างยูซีแอล พวกเขารักษาความดุเดือด และความคงเส้นคงวาได้อย่างดีเยี่ยม และการผ่าน อัลเบ ลิปซิก ไม่ใช่งานที่ยาก แม้ทั้งสองเกมจะต้องเตะที่สนามกลางทั้งคู่

และอีกอย่างก็คือ ตอนนี้ดูเหมือน คล็อปป์ และทีมงานของเขา ให้ความสำคัญกับถ้วยรางวัลอย่างเต็มที่ เพราะหนทางในลีก และการป้องกันแชมป์มันจะยาก และแน่นอนว่าตอนนี้ พวกเขากำลังจะกลับมาคืนฟอร์มได้ และเชื่อว่า เมื่อรอบก่อนรองกลับมาเตะพลัง ” หงส์แดง ” ที่นั่นน่าจะสมบูรณ์กว่านี้

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พวกเขาถูกวางให้อยู่ใน 6 ตัวเต็ง ในรายการนี้ เพราะด้วยที่ว่า ตอนนี้ทีมเหลือเพียงรายการเดียว และสามารถรวบรวมความฟิต บวกกับประสบการณ์ และความกระหายที่จะนำความสุข กลับมาสู่แฟนบอลทำให้พวกเขา เป็นอีกทีมที่ไม่มีใครดึงมาพบด้วย

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ( บุนเดสลีก้า )

อีกทีมที่ผลงานโดยรวม ถือว่าน่าเกรงขามทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรุก ที่มักจะยิงคู่แข่งได้พอสมควร เนื่องจากพวกเขามีพรสวรรค์อายุน้อย ฮาแลนด์อยู่ในทีม ตอนนี้ผู้ทำประตูสูงสุด คือ 10 ประตู และในที่แล้วพวกเขา ชนะทางด้านเซบีย่าได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยสกอร์รวม 5-4

ในรอบนี้ แม้ว่าทัพ ” ดอร์ทมุน ” อาจไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่จะถึงการเป็นแชมป์ แต่ต้องไม่ประมาทเขา มีความกลัวในตัวเอง โดยเฉพาะเกมรุกที่ลุกลาม ซึ่งรวมถึงเกมในบ้านของพวกเขา ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะในบอลถ้วยยูซีแอล ไม่แพ้ทีมใดเลย ดังนั้นนี่คือจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถพาพวกเขาไปได้อีกไกล และลงลึกกว่านี้

ปอร์โต ( ปรีไมราลีก้า )

ถือว่าโดนหักหน้าหลายสโมสร สำหรับผลงานของกุนซือ เซร์คิโอ คอนซาเกา ที่ตบทัพยูเวนตุส หลุดจากรอบที่แล้วไป ที่พร้อมด้วยพละกำลัง และประสบการณ์หลายคน และมองไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่รอดแน่ ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขา จะสู้สุดฤทธิ์ จนพาตัวเองเข้าสู่รอบนี้ได้สำเร็จ

แน่นอนว่าด้วยชื่อของผมพวกเขา คงมีทีมที่หลายสโมสรต้องการแข่งขันด้วย เพราะตามตรง มันน่าจะเป็นระดับที่ง่ายที่สุด แต่อย่าลืมว่ายูเวนตุส ก็โดนเขี่ยเช่นกัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงเกมป้องกัน ที่มีพี่ใหญ่เปเป้คอยควบคุม เกมใครก็ตามที่เจอ และประมาทก็อาจจะน้ำตาไหลได้เช่นกัน

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย