การวาง 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

เริ่มกันที่การสร้างทีม เกมนี้ Diego Martinez โค้ชของกรานาด้า จัดหนักใช้ผู้เล่นที่ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ผู้เล่นตัวจริงเริ่มต้น ที่มีชื่อเสียงและชื่อที่คุ้นเคย ได้แก่ Kennedy กองกลาง , Chelsea , Max Simconalons และ Hope Striker Ro เบอร์โต โซลดาโด ดาวรุ่งมากประสบการณ์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเล่นในอังกฤษ กับท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์

ในขณะที่ ปีศาจแดง ของโอเล่ ก็เช่นกัน ต้องบอกว่าชุดใหญ่หล่อ ๆ ไฟกะพริบ ก็คาดไม่ถึง เช่นกัน มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวูด ซึ่งก่อนเกมได้รับรายงาน ต้องรอเช็คความฟิต อาจจะมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง แทนทั้งคู่เริ่มเล่นสวนทางได้ เอดินสัน คาวานี่ ลงเป็นตัวเป้าในเกมนี้ ต้องรอโอกาส บนม้านั่งสำรองในฐานะ

เช่นเดียวกับ Ahmad ดิยัลโล ปีกดาวรุ่งที่ก่อนเกม ” ป้า ” เปรยว่า อาจจะเป็นเรื่องจริง ก็ยังเป็นแค่กองกลางสำรองวาง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จับคู่กับ ปอลป็อกบา , บรูโน แฟร์นานเดซ เป็นตัวสร้างสรรค์เกม ส่วนนายด่านนัดนี้ใช้ ดาบิด เดเคอา เฝ้าเสา

ช่วงเวลาในครึ่งแรก

เริ่มเกมในช่วงต้น เกมค่อนข้างน่าอึดอัด ต่างฝ่ายต่างดูตึงเครียด เคาะบอล เพื่อหาจังหวะจบสกอร์ไม่มาก ก่อนที่เขาจะยิงจริง ต้องรอจนถึงนาทีที่ 19 บวกกับฟรีคิกระยะไกล ไม่ได้มีความหวังมากนัก จากนั้น ผีแดงก็เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คือ การครองบอล แต่เขาไม่พบโอกาสมากมายที่จะจบสกอร์ นาทีที่ 28

แรชฟอร์ด ได้บอลจากจังหวะที่ บรูโนจะจ่ายเข้าไป แต่เด้งกลับมาหาเขา ดังนั้นการยิงโค้งอย่างระมัดระวัง เลื่อนฉันไปที่เสาสอง แต่หลังจากนั้น ก็บินออกไป จนถึงนาทีที่ 31 เกมบุกออกผลของแมนยู ก็ประสบผลและประตูขึ้นนำ และจังหวะที่ไม่น่าเชื่อ ดาบิด เดเคอา เปิดบอลสั้น ให้วิคเตอร์ลินเดลอฟ

ซึ่งแทบไม่เคยเห็น การเปิดบอลยาว หรือแอสซิสต์มานานนับพันปี แต่ในเกมนี้วิญญาณของพ่อ Tony Kroos เข้ามาซะอย่างนั้น วางบอลยาวจากหน้าเขตโทษ ตัดหน้ากรานาด้า และมาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดกับดักล้ำหน้า จับลูกให้นิ่ง ผู้เขียนด้วยอีกหนึ่งสิทธิ์ ก่อนแทงบอลให้รุยซิลวาเข้าประตูไปส่งให้ ” ปีศาจแดง ” ขึ้นนำ 1 – 0 และเป็นประตูที่ 20

ของแรชฟอร์ดในฤดูกาลนี้ หลังจากได้ประตูขึ้นนำ และได้ประตูทีมเยือนที่ต้องการแมนยู ก็คลายเกม ลงอย่างมาก ทำให้กรานาดาทำเกมบุกได้ และในช่วงห้านาทีสุดท้าย ทีมเจ้าบ้านสามารถชนะได้สามประตู เริ่มจากจังหวะที่ ยานเคล เอร์เรร่า ยิงตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งไปชนเสาอย่างจัง

เกมบุกเรื่อย ๆ คือ ลูกคอนเนอร์ บอลมาเข้าทางโซลดาโด้ หยุดบอล แต่กลับยิงออกไปเอง และเกมบุกครั้งสุดท้าย ใน 45 นาทีแรก กรานาดายิงนอกเขตโทษโดยเคนเนดี้ แต่บอลไม่อันตราย และไม่รอดมือเดเคอา ทำให้จบครึ่งแรก ปีศาจแดงขึ้นนำ 1 – 0

ครึ่งหลัง ยังเป็นผีแดง ที่ดูดีกว่า

ในครึ่งหลัง โซลชาเปลี่ยนตัวทันทีถอด ลุค ชอว์ ซึ่งโดนใบเหลือง และจะพลาดเกมถัดไป และเปลี่ยน อเล็กซ์ เทลลิส แต่เริ่มครึ่งหลัง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ สกัดบอลเข้ากรอบให้ เคนเนดี้ อย่างแรงเกินหวัง แต่มันก็ยังตรง เดเคอารับได้ 

หลังจากนั้น ก็ยังคงเป็นกรานาด้า ที่ยุ่งเหยิงในขณะที่แมนยู เน้นบอลป้องกันบอลรอการโต้กลับ แต่เกมโต้กลับไม่เข้มข้นอย่างไรก็ตามเกมรุกของกรานาดาก็ยิงได้เช่นกันดังนั้นมันจึงแน่นและน่าเบื่อ

เจ้าบ้านมีโอกาสที่จะชนะเล็กน้อยในนาทีที่ 67 เคนเนดี้คนเดิมยิงเป็นครั้งที่สาม แต่ยังคงเซฟดาบิดเดเคอาได้เหมือนเดิม นาที 83 ปีศาจแดงเกือบเสียตุงเสมอ 2 – 0 ผ่านการจ่ายของ แดเนียล เจมส์ จ่ายให้ บรูโน เฟอร์นันเดส พุ่งเข้ากรอบเขตโทษ แต่จากนั้นก็ยิงไปติดเซฟให้รุยซิลวานายด่านกรานาดา ควรได้ประตูเพราะจากการเคลื่อนไหวช้ากรรมการจะดู VAR และเล่นล้ำหน้า

เกมทำท่าว่าจะเหนียวแน่น และจบลงที่ 1 – 0 เพื่อสู้กันต่อไปอย่างสนุกในเลกที่ 2 แต่แล้วในช่วงท้ายเกม อาร์ตูโร โซอาเรสดิอาส ผู้ตัดสินในเกมนี้ที่เชื่อว่าแฟน ๆ เป็นผีรอบ โลกกำลังพุ่งพล่านไปทั่วทั้งเกม เพราะเป่าฟาวล์ 

และให้ใบเหลืองกับผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด ง่ายมากจนต้องเสียขาที่สอง Pogba , Luke Shaw and Harry Maguire เพราะสะสมครบโควต้าสีเหลืองหมดโควต้าจู่ ๆ ก็มีใจคิดเป่าจุดโทษให้ปีศาจแดงเลย

เป็นจังหวะที่ Alex Stellis ข้ามบอลจากด้านซ้ายเคลื่อนเข้าเขตโทษและ Bruno Fernandes ถูก Yan Bryce E Tequi สกัดกั้น เพื่อให้เข้าเล่น เป็น Bruno Fernandes ที่ลุกขึ้นมาฆ่าตัวตายด้วยการดวล 

Ruizilva เพื่อนร่วมชาติ และมือสังหารอันดับ 1 ของ “ปีศาจแดง” ก็ยิงไม่พลาดแม้ซิลวาจะปัดไปถูกทาง แต่บอลก็พุ่งเข้าประตูทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 2-0 และคว้าชัยชนะไปด้วยในครั้งนี้ คะแนน

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย