ผีแดงปิดเกม ช่วงต่อเวลา ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ

     ผีแดงปิดเกม ช่วงต่อเวลา ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เอฟเอคัพได้สำเร็จ ซึ่งอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าทุกทีมที่ลงแข่ง ในรายการบอลถ้วย ไม่ว่าจะลีกไหนก็ตาม หากเป็นทีมที่มีโอกาส สำหรับการชนะที่มากกว่า ก็มักจะเลือกโรเตชั่นนักเตะ ทั้งสำรอง และนักเตะดาวรุ่ง ลงเป็นตัวจริงซะส่วนใหญ่

แต่สำหรับเกมนี้ แมนยู ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะทีมอย่างเวสแฮม ไม่ใช่ทีมที่จะสามารถ ชนะได้ง่าย ๆ จึงมีการโรเตชั่น แค่ตัวสำรองลงบ้าง บางตำแหน่งเท่านั้น เพราะปีนี้โชลชา น่าจะต้องการแชมป์ทุกรายการ นั่นเอง

ผีแดงปิดเกม

ฟอร์มของนักเตะโดยรวม

     โดยเฉพาะฟอร์มของ นายด่านอย่าง เด เคอา ที่ควรจะต้องพักบ้าง เพราะหลัง ๆ มานี้ไม่ดีเอาซะเลย จึงเป็นโอกาสของ ดีน เฮนเดอร์สัน ได้รับหน้าที่เฝ้าเสา ในเกมนี้ ส่วนแบ็กซ้ายใช้เป็น อเล็กซ์ เตลลิส ลงเป็นตัวจริงก่อน ลุค ชอว์

โดยมีกองกลางเป็น เนมานย่า มาติช และ เฟร็ด เป็นตัวดักบอล โดยใช้ ฟาน เดอ เบค เป็นผู้เล่นปั้นเกม ซึ่งทางด้านของ บรูโน่ ได้พักบ้าง ส่วนผู้เล่นในแผงรุก ก็เป็นผู้เล่นหน้าเดิม ๆ ทั้งหมด คือ แรชฟอร์ด , กรีนวู้ด และ มาร์กซิยาล

ส่วนฝั่งทีมเยือนอย่าง เวสต์แฮม เกมนี้จะไม่สามารถใช้งาน นักเตะตัวเก่งอย่าง ลินการ์ด ที่ยืมตัวมาจากแมนยู เพราะต้องพบกับต้นสังกัดเดิม บวกกับเคยลงเล่น ในรายการนี้ กับแมนยูมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย แต่สำหรับนักเตะตัวอื่น ๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด

โดยที่เกมนี้ มอยส์ สลับผู้เล่นเพียงไม่กี่ตัว เพราะเจ้าตัวก็ต้องการ ที่จะได้แชมป์กับรายการต่าง ๆ เหมือนกัน ซึ่งจะมีเพียงแค่ อันโตนิโอ เท่านั้นที่ได้พักเกมนี้ ซึ่งตัวอื่น ๆ อยู่กันครบทั้งหมด โดยเฉพาะ ซูเช็ค ที่รอดจากโทษแบน หลังยืนอุทธรณ์ ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกด้วย

ปีศาจแดง เริ่มต้นดี แต่ปิดเกมไม่ได้

     ช่วงต้นแรก เริ่มมาเป็นทางฝั่งของแมนยู ที่ดูมีทนงบอลที่ดีกว่ามาก บวกกับความฟิตที่ทำเกมกันได้ดี แต่ก็ไม่สามารถ ที่จะเจาะเกมรับของเวสแฮมได้ แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ปิดจังหวะกันเองไม่ได้ด้วย ซึ่งเกมนี้เกมรับของเวสแฮม ถือว่าทำหน้าที่กันได้ดี แต่ต้องเสียผู้เล่นอย่าง อ็อกบอนน่า

กองหลังตัวหลักของทีม ที่ได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม สุดท้ายเป็น อิสซ่า ดิย็อป เปลี่ยนมาแทน ซึ่งจากการเปลี่ยนตัวนั้น ก็ไม่มีผลต่อรูปเกมอะไรมากนัก เพราะเป็นฝั่งของแมนยู ที่มีโอกาสให้จบได้มากกว่า แต่กลับทำเสียกันออกไปเองทั้งหมด 

ส่วนดอนนี่ ที่ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริง แต่กลับมาฟอร์มการเล่นที่ ไม่ได้หวือหวาอะไรเลย มีแค่จังหวะเล่นกลับเพื่อน วันทูกันแค่นั้น แถมยังมีหลาย ๆ จังหวะที่เจ้าตัว วิ่งทับไลน์ทีมเดียวกันอีก ทำให้ผู้เล่นอื่น ๆ กะจังหวะพลาด 

ส่วนเจ้าพ่อแห่งการเลี้ยง ไม่รู้ไปกินอะไรมา เลี้ยงอยู่นั้นแหละ ไม่คิดที่จะส่งให้เพื่อนเลย ขณะที่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ยืนขว้างกันอยู่ 3 – 4 คน ยังจะเลี้ยงฝ่าเข้าไปอีก สุดท้ายก็ไปไม่รอด ส่วนอีกคน คือ มาร์กซิยาล ก็ยังคงมีฟอร์มดังเดิม วิ่งหาตำแหน่ง จบสกอร์ แทบจะไม่มีให้เห็นเลยด้วยซ้ำ 

เพราะด้วยรูปเกม ที่ดูแล้วน่าเบื่อ ทำให้ต้องจบด้วยสกอร์ 0 – 0 ในครึ่งแรก ทั้งที่ที่จริงแล้ว รูปเกมของแมนยูฯ ซะส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ซึ่งจังหวะที่น่าจะเป็นประตูที่สุด คือ การขึ้นโหม่งของ ลินเดเลิฟ แต่สุดท้ายก็ติดเซฟของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ก่อนจะเด้งไปชนเสา ด้านนอกออกหลังไป อย่าน่าเสียดาย

เปลี่ยนตัวแล้วดีขึ้น

     เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่นานมาก แมนยูรูปเกมยังคงเหนือกว่า แต่กลับไม่มีจังหวะจะ ๆ สำหรับการจบสกอร์ จนสุดท้ายแล้ว โซลชา ต้องตัดสินใจส่งทางด้านของ บรูโน่  กับ แม็คโทมิเนย์ เข้ามาแทนที่ ดอนนี่ และ มาติช

ซึ่งแน่นอนว่า พอได้นักเตะที่มีการสร้างสรรค์เกมที่ดี ก็มักจะต้องรูปเกมที่ดีมากขึ้น จากที่ตอนนี้ได้เปรียบอยู่แล้ว ทำให้ตอนนี้ดูมีความได้เปรียบมากกว่า แต่ปัญหาเดิม ๆ คือ ยังไม่สามารถหาประตูได้ สุดท้ายต้องต่อเวลาพิเศษ

เริ่มเกม ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้ไม่นาน โซลชา โชว์การเปลี่ยนตัว ที่แบบแฟนบอลยังตกใจ โดยการเลือกเปลี่ยนแบ็คทั้ง 2 ข้างออกอย่าง เตลลิส และ วาน-บิสซาก้า แล้วเลือกส่งทางด้านของ ลุค ชอว์ และ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ลงมาแทน 

ทำให้รูปเกมดูเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะการขึ้นเกม ทางฝั่งริมเส้น ให้ด้านซ้ายของ ลุค ชอว์ ที่ต้องบอกเลยว่า หวือหวาอยู่พอสมควร และสุดท้าย ภายใน 7 นาที แมนยูก้สามารถขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ไหลมาเข้าทาง แรชฟอร์ด

และปาดบอลให้กับ แม็คโทมิเนย์ ส่องเข้าไปแบบดื้อ ๆ ซึ่งนั้น คือ ประตูแรกของเกม และเป็นประตูเดียวของเกมนี้อีกด้วย  สุดท้าย ปีศาจแดง ก็สามารถเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเป็นที่เรียบร้อย ในศึก เอฟเอคัพ ถูกใจแฟน ๆ กันเลยทีเดียว

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย