วิเคราะห์ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล เสมอ เวสต์บรอมฯ 

วิเคราะห์ 5 ประเด็น

วิเคราะห์ 5 ประเด็น การแข่งขันนี้เจ้าบ้านมีผลงานที่ดี เพียงแค่ครึ่งแรกเท่านั้น ก็สามารถทำประตู จาก ซาดิโอ มาเน่ ด้วยเทคนิคการเล่น ในแผนตั้งรับลึกของ “บิ๊กแซม” ทำให้ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่สามารถผ่านเข้าไป ทำประตูได้เลย และสุดท้ายก็มาโดนทีเด็ดของ  ซามี่ อาจายี่  โขกตีเสมอช่วงราวๆ 10 นาทีสุดท้าย

การที่ “เดอะ เร้ดส์” ได้คะแนนเพิ่มขึ้นมา อีก 1 คะแนน ทำให้ตอนนี้ทีมนำ เอฟเวอร์ตัน และมีคะแนนรองจาก ผู้นำ เพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น ทำให้การลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ เป็นที่น่าจับตามากยิ่งขึ้น เพราะทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสที่จะทำแต้มไล่บี้แชมป์เก่าเลยทีเดียว

1. ดีแต่ป้อล่อ(เป้า)ไม่เป็น

ลิเวอร์พูล ทำให้เห็นได้อย่างที่แน่ชัดถึง เรื่องของศักยภาพในการรักษารูปเกม แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทีมยังแก้ไขไม่ได้ คือการที่ต้องเจอทีมที่มีการตั้งรับที่ แข็งแกร่ง โดยเฉพาะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทัพ “หงส์แดง” ไม่สามารถเจาะเข้าไป สร้างความตื่นเต้น ในกรอบเขตโทษคู่แข่งได้ไม่มาก

“เดอะ เร้ดส์” มีสถิติในการรักษาบอล ได้ดีกว่า ในช่วงของครึ่งแรกของการแข่งขัน ก่อนที่จะยิงประตูแรกมาได้ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งเป็นการสนับสนุนของ โฌแอล มาติป จากนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถเจาะเข้าไปใน กำแพงที่แข็งแกร่ง ที่ แซม อัลลาร์ไดซ์ วางเทคนิคเอาไว้เอาไว้

ในครึ่งหลังของการแข่งขัน เจ้าบ้านคงทำได้ เหมือนเดิม คือ การรักษาบอล และรักษาเกมเอาไว้ได้ดี ส่งบอลไปมาทั่วสนาม แต่สุดท้ายก็จบที่ การเปิดบอลจากริมเส้นซ้ายขวา แต่ไม่สามารถเจาะเข้าไปในเกมรับ ที่ซ้อมกันมาเป็นอย่างดีเพื่อที่จะรับมือการบุก ของแชมป์เก่า และสุดท้ายการเล่นประมาทของ “หงส์แดง” นำไปสู่ 1 แต้มสำคัญของ เวสต์บรอมฯ

แม้การแข่งขันนี้ ลิเวอร์พูล จะรักษาบอลได้เยอะกว่า และมีโอกาสที่จะทำประตู ได้ไม่มาก แค่ 1-2 ครั้ง โดยรอบแรกนั้น มาเน่ ทำประตูให้ทีมขึ้นนำ ส่วนอีกจังหวะเป็นการโหม่งของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่โดน แซม จอห์นสโตน ปัดด้วยปลายนิ้วไปได้อย่างหวุดหวิด นอกนั้นเจ้าบ้านทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากต่อบอลไปมาเท่านั้น

2. วิเคราะห์ 5 ประเด็น ปัญหาบาดเจ็บกลับมาอีกแล้ว

อาการบาดเจ็บเป็นปัญหา ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะเวลาที่มีการแข่งขันบ่อยๆ อย่างในพรีเมียร์ลีก แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล พวกเขาก็ยังมี ปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในตำแหน่ง ที่สำคัญ อย่าง เซนเตอร์แบ็ก

สำหรับอาการบาดเจ็บล่าสุดของ มาติป นั่นหมายความว่า 3 คน ในตำแหน่ง เซนเตอร์แบ็ก หลักของทีมจะไม่ได้ลงในการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้ ฟาบินโญ่ ซึ่งเป็นเซนเตอร์แบ็กจำเป็น ต้องการเป็นปราการหลังตัวกลางเบอร์ 1 ของทีมในเวลานี้ ส่วนคู่หูของเขาคงหนีไม่พ้น วิลเลี่ยมส์ กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ หรือออปชั่นเสริมก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

3. ลิเวอร์ต้องการตัวปั้นเกมอย่าง ติอาโก้

ติอาโก้ อัลกันตาร่า ต้องเซ็นสัญญา กัน เพราะในทีมต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ นั่นก็คือการโดนคู่แข่งเล่นเกมรับที่มีความแข็งแกร่ง เจาะเข้าไปทำประตูได้ยาก ดังนั้นนักเตะที่มีศักยภาพในการเปิดบอลตามช่องที่เฉียบคม และมีไหวพริบในการพลิกแพลงการเล่นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

นักเตะ ชาวสแปนิช พร้อมไปด้วยไหวพริบ และยังมีความเฉลียวฉลาด และมีความคิดในการปั้นเกมจากพื้นที่แดนกลางเพื่อเจาะกำแพงมนุษย์ที่หนาแน่น นอกจากไปจากการเปิดบอลจากริมเส้นที่มาจากปลายสตั๊ดของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

แผนการเล่นนี้ แสดงให้เห็นว่า “หงส์แดง” จำเป็นต้องมีนักเตะแบบ ติอาโก้ มาช่วยในเกม เพราะทีมอาจจะต้องรับมือกับทีมที่ มีการตั้งรับที่แข็งแกร่ง แบบนี้อีกหลายการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ คล็อปป์ ตัดสินใจเซ็นสัญญากับนักเตะ แต่กระนั้นสิ่งนี้ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแชมป์เก่าน่าจะมีผู้เล่นแบบ ติอาโก้ อีกคนในอนาคต

ถ้า ติอาโก้ มีร่างกายที่พร้อมกลับมาลงแข่งขันได้ เขาจะเป็นนักเตะตัวสำคัญ สำหรับการแข่งขันที่ต้องรับมือ ทีมที่มีการตั้งรับ ที่แข็งแกร่งแบบนี้ เพราะ ลิเวอร์พูล คงจะต้องเจอกับคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นทีมหนีตกชั้น หรือทีมที่ไม่อยากเห็น “หงส์แดง” ป้องกันแชมป์ได้ ด้วยการใช้แท็กติกแบบเดียวกันนั่นก็คือเน้นตั้งรับลึก 

4. มนต์ขลัง มาเน่ ยังใช้ได้

คล็อปป์ เลือกใช้งานนักเตะ ที่ผสานกันได้ อย่างแผนการ โรแบร์โต้ , ซาดิโอ  และโมฮาเหม็ด นำกลับมาเป็นแนวรุกเพื่อเล่นผสานกัน หลังจากเกมที่แล้ว “บังโม” โดนดร็อปป์ ในแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล ไล่ต้อน “ดิ อีเกิ้ลส์” คริสตัล พาเลซ 7-0

การแข่งขันนี้ ที่ได้ทำการแข่งกับ เวสต์บรอมฯ  นั้น แน่นอนว่า มาเน่ ได้ทำผลงานการเล่นที่ดี เหมือนกับที่เขาเคยทำมา โดยเฉพาะการส่งบอลที่ทำให้ทีมขึ้นนำไปก่อน ซึ่งในเกมเยือน พาเลซ ก็สามารถยิ่งประตูได้เช่นกัน ทำให้ตอนนี้นักเตะกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

ในการแข่งขันครึ่งแรกของเกมนั้น นักเตะชาวเซเนกัล มีการเล่นที่ดีมากมีทั้งความแข็งแรง และความเร็ว ซึ่งการเล่นของเขา ทำให้เกมรับของทีมเยือน มีปัญหาไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ครึ่งหลังเจ้าตัวมีโอกาสน้อยไปนิด เนื่องจากเวสต์บรอมเน้นตั้งรับลึกเป็นพิเศษ

ในเกมหลายการแข่งขันที่ผ่านมาใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ กองหน้าที่มีความเร็ว ได้ยิงประตูได้ในแอนฟิลด์ สามารถเก็บชัยชนะ ถึง 39 แมตช์ โดยมีแค่ เวสต์บรอม (เกมล่าสุด) และ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น ที่สามารถ บุกมาแบ่งเอาแต้มไปได้

5. หมากเกมนี้ “บิ๊กแซม” รู้ต้องเล่นยังไง

แซม อัลลาร์ไดซ์ มักจะโดนว่าตลอดว่า เป็นคนหัวโบราณ ที่เล่นการเล่นฟุตบอลไดเรกต์ หรือการทำเกม ยาวจากหลังไปหน้า โดยไม่ใจในตำแหน่ง แต่กระนั้น “บิ๊กแซม” รู้ว่าต้องวางเกมยังไงหากต้องเจอกับทีมลิเวอร์พูล

จะลืมไม่ได้ว่า อัลลาร์ไดซ์ คือกุนซือ ที่ที่สร้างแผลให้กับ พรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเขานำทีมเอาชนะในแอนฟิลด์ เมื่อกว่า 3 ปีก่อน จากนั้นเขาก็เคยนำ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน และ “เดอะ แบ็กกี้ส์” สามารถบุกมาแบ่งแต้มในเมกะลูกหนังสุดอาถรรพ์แห่งนี้

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย