เจ ชนาธิป ล่าสุด Chanathip Songkrasin ( Messi J ) มิดฟิลด์ตัวเด็ด จากทีมชาติไทยใน คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เขาได้พูดถึงตัวเอง ใน 3 ปีที่เปลี่ยนชีวิตตนเองมาจาก ลีกที่สูงสุดของไทย ไปเป็นนักเตะอันดับต้น ๆ ในไทยลีก สู่การเปลี่ยนแปลง ผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ในชีวิตของเขา เข้าเล่นลีกนัมเบอร์วัน ของ Asia กับทีมท้ายตาราง ในบทสัมภาษณ์

จากรายการ แหล่งข่าวดัง ถึงสุดท้ายแล้ว เขาก็ได้ผันตัว กลายเป็น นักเตะ ที่ดึงดูดให้ แฟน ๆ ชาวบอลไทย ไปเชียร์ Hokkaido Consadole Sapporo ได้เป็นอย่างดีเลย

” เมสซี่ เจ ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ล่าสุด ได้เล่าว่า ทั้งในที่ญี่ปุ่น และไทยเรา อันที่จริงแล้ว คุณภาพของนักเตะ แต่ล่ะท่าน ในเริ่มต้นนั้น ฝีเท้าเบสิค ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างกัน กับไทยเราสักเท่าไหร่เลย เพียงแต่พอได้มาฝึกฝน เตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะ เรื่องการวิ่ง ความฟิตร่างการ การฝึกซ้อม ก็จะเปลี่ยน จนเห็นได้เลยว่า แตกต่างออกไป

ถ้าหากว่า ” ชนาธิป ” อยู่ที่ไทยแล้วได้ วิ่ง 7 กม. ต่อ 1 เกมส์ หรือ 90 น. นั้นถือว่าเยอะ เล่นได้สบาย ๆ แต่หากเป็นที่ J League ( เจลีก ) ทำแบบนั้นไม่ได้เลย อย่างน้อย ๆ เลยก็ต้อง 10 กม. ขึ้นไป บางเกมนั้น เยอะที่สุด อาจถึง 12 กม. ซึ่งในสถิติ ของ J League นี้ นักเตะผู้ที่ วิ่งเยอะมากที่สุด พุ่งสูงไปถึง 14 กม. ต่อ 1 แมทต์ ซึ่งมันก็สูงมาก ๆ

และเขายังกล่าวอีกว่า ” ร่างกายคือสิ่งสำคัญ ในช่วง 2 ปีให้หลัง ผมสามารถจับจังหวะการเล่น สไตล์การเดินเกม ของที่ญี่ปุ่นได้ นั่นทำให้ไม่มีปัญหาเลย หากเราทราบว่า เราต้องทำยังไง เล่นอย่างไร แต่สิ่งนึงที่ผม แอบเป็นห่วงมากที่สุด นั่นคือ การได้รับบาดเจ็บ สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียว ที่ผมไม่สามารถคาดเดา กับตัวเองได้เลยจริง ๆ “

” ทั้งที่ผมพยายามดูแลตัวเอง เป็นอย่างดีมาโดยตลอด มันอาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกาย กล้ามเนื้อ ของเรานั้นไม่ได้ถูกเตรียมการ มาแต่เด็ก และใช้ร่างกายหนักเกินไป ในช่วงที่เข้ามาเล่น ในระดับเยาวชน จึงจำเป็นต้องแก้ไข และพัฒนากับตัวเองเป็นจุด ๆ ไป และผมหวังว่า ในอนาคตวันข้างหน้า ผมจะนำพาประสบการณ์ที่ได้รับมาเหล่านี้ ไปพัฒนากับเด็กไทยเราต่อไป “

ในระยะเวลา 11 เดือน ที่ผมไม่ได้กลับไทย นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าโดยปกติแล้ว กลับมารับใช้ชาติ กลับมาบ้าน การได้กลับมาไทยเหมือนกับ การได้ชาร์จพลังให้รู้สึกสดใส ก่อนจะไปเริ่มทำงาน แต่อยู่นู้นผมต้องระมัดระวัง ทั้งเรื่อง สถานการณ์โควิด

แถมยังซ้อมอย่างหนัก เพื่อทำเป้าหมายของคลับให้ดี ยิ่งถ้าเป็นช่วงไหน ที่ผลงานไม่ได้ แล้วเราเองก็มีอาการบาดเจ็บด้วย นั่นยิ่งทำให้เราเครียด มากขึ้นไปเป็นหลายเท่าเลยทีเดียว

” โค้ชมิช่า ” เป็นเสมือนครอบครัว เป็นเหมือนพ่ออีกคน ที่คอยฝึกฝนพัฒนา ฝีเท้าของตัวผม ซึ่งเวลาที่ผ่านมานี้ ผมเองก็มีความสุขกับ การได้อยู่ที่ สโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร มาก ๆ ผมตั้งเป้าหมายของตัวเอง ไว้ว่าปีหน้าสิ่งแรกต้องพยายามคือ ต้องไม่มีอาการบาดเจ็บ มารบกวนการได้ลงเล่นของผม

และผมอยากจะนำพาทีมไปยัง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้ ผมเชื่อว่าเรื่องคุณภาพ และภาพรวมต่าง ๆ ของทีม นั้นเป็นสิ่งที่ดี มากพอที่จะมีลุ้น “

ในอนาคตเป็นเรื่องที่ ไม่มีอะไรแน่นอนเลย การได้ไปเล่นที่ยุโรป กับ ” เจ ชนาธิป ” สรงกระสินธ์ ที่มีข่าวตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ อาจจะเป็นเรื่องของ อนาคตในวันข้างหน้า แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ในวันนี้เขาเป็นสตาร์ เป็นที่รัก ของสโมสรมาก อย่างที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ซึ่งเขาเพียงรอเวลา ให้ร่างกายของเขาฟื้นฟู กลับมาเต็มร้อยอีกครั้ง

ชาวไทย คนที่ 2 นับหลังจาก ” ธีราทร บุญมาทัน ” ในการลุ้นแชมป์ จาก เจลีก ( J League ) ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้สูง ปีหน้าเรามาลุ้นกับ “คอนซาโดเล่ ซัปโปโร” คนนี้กันครับ

ติดตามข่าวกีฬาต่าง ๆ ได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอลออนไลน์ อันดับ1 ของไทย