– การดักจับที่ล้ำหน้า

กุนซืออย่าง เจอร์เก้น ติวหนักเรื่องแผนการเล่นในแนวรับกับ ลิเวอร์พูล ดีมาก เพราะสิ่งที่เป็นห่วงคือ หงส์แดง จะรั่วมากไปหรือเปล่า เมื่อไม่มีผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โจเอล มาติป, โจ โกเมซ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จึงต้องใช้ อร์แดน เฮนเดอร์สัน ยืนคู่ ฟาบินโญ่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 2 กองกลาง ที่ต้องถอยมายืนเป็นกองหลังจำเป็น

แต่ทว่าทุกอย่างก็สามารถที่จะตอบได้ทั้งหมด เมื่อ เฮนโด้ และ ฟาบินโญ่ ต่างรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้เยี่ยมมาก รวมถึงกองหลัง 2 ฝั่ง ที่ได้คอยเก็บกวาดดักล้ำหน้าได้เป็นดี 

เพราะ คล็อปป์ ทราบดีอยู่แล้วว่า การจัดระบบแบบแผนของ โซลชา มักจะเป็นในรูปแบบที่ เมื่อตัดบอลได้ ก็จะเลือกใช้เกมสวนทันที เนื่องมาจากมีทั้งมิดฟิลที่แม่นยำ ทั้ง ป็อกบา และ แฟร์นันเดส โดยใช้ความคล่องแคล่ว รวดเร็วของกองหน้า ที่มี แรชฟอร์ด หรือ อ็องโตนี่ 

– อลิสซอน super save

หากว่าวันนี้ไม่มี อลิสซอน หงส์แดง ลิเวอร์พูล อาจเสียสถิติไม่แพ้คาบ้าน 68 นัด ที่นับเพียง พรีเมียร์ลีก ไปเรียบร้อยแล้วเป็นแน่แท้ มันก็จริงอยู่ที่ในช่วงครึ่งแรก อลิสซอน เขาแทบจะไม่ต้องออกแรงเซฟเลย มีเพียงแค่ต้องคอยอ่านบอล ออกมาตัดบอลจากนอกกรอบเขตโทษเท่านั้น

ถึงอย่างไรก็ตามแต่ เมื่อถึงในช่วงของครึ่งหลัง อลิสซอน ก็มีงานมากขึ้นกว่าเดิม โดยช่วงเข้าสู่ประมาณ 20 – 25 นาทีสุดท้าย เพราะว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล เสี่ยงมากต่อการที่จะได้เป็นฝ่ายพ่ายคาบ้าน เนื่องจากสไตรเกอร์ เจาะได้ถึงแนวตั้งรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เข้าเลย

แล้วเมื่อไม่สามารถทำเขาได้ ก็เกือบโดนทำส่ะเอง โดยที่มี 2 จังหวะแบบหนัก ๆ ที่ ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหมือนจะได้สกอร์ขึ้นนำสุด ๆ ทั้งจังหวะที่เข้าชาร์ตระยะใกล้ชิดหน้าประตูจาก บรูโน่ แฟร์นันเดส และ ปอล ป็อกบา ที่ซัดอย่างหนักในเขตโทษ 

แต่ก็ได้กลับกลายเป็นว่า อลิสซอน เซฟลูกยิงได้อย่างน่ามหัศจรรย์ นั่นช่วยให้ ลิเวอร์พูล รอแบบหวุดหวิด นอกจากที่ว่าเป็นซูเปอร์เซฟแล้ว เขาคนนี้ยังช่วยเซฟ หงส์แดง ไว้ได้อีกด้วย

– แนวรุกไม่ดีพอ

ไม่แน่ใจว่าในตอนนี้นั้น หงส์แดง ต้องพะวงในเรื่องแบ็กหลัง หรือ กังวลกับสไตรเกอร์มากกว่า เพราะว่าวันที่ คล็อปป์ ได้เริ่มจัดการปัญหาเพื่อรับมือที่อาการเซ็นเตอร์แบ็กพากันบาดเจ็บได้ กลายเป็นว่า 3 ประสานตัวทำสกอร์ ที่ไม่สามารถ เก็บ 3 แต้มไปได้เลย

ตั้งแต่แมตซ์ที่บุกกระหน่ำ คริสตัล พาเลซ 7 – 0 ต่อจากนั้นก็เหมือนกับว่า หงส์แดง ได้หมดแรงไปเสียอย่างนั้น เพราะใน 4 แมตซ์ที่ต่อมาจากนั้น ทำประตูได้แค่ 1 ครั้งเท่านั้น และ ไม่ได้เก็บ 3 แต้มเลย

แล้วสิ่งที่มันร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือ 3 ประสานตัวบุก ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ร่วมทำสกอร์เพียง 2 ลูก และ ไม่ได้ทำแอสซิสต์เลย เป็นเวลารวมได้ 1,845 นาที เข้าไปแล้ว ถึงเกมรับจะแข็งแรงมากขนาดไหน แต่หากเกมรุกทำประตูไม่ได้เลยมันก็จบ

– เทรนท์ อาร์โนลด์ ฟอร์ม ไม่กลับฝั่ง

ได้ชื่อว่าเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เรื่องของการทำแอสซิสต์, ครอสบอล หรือ เปิดลูกตั้งเตะ มันเตะตาผู้สนใจอยู่แล้วแน่นอน โดยใน 2 ซีซั่นก่อนนี้ คนเหล็ก แห่งสเก๊าเซอร์ จ่ายลูกให้เพื่อนได้ทำประตูไปถึง 25 ลูก นั่นเป็นสิ่งที่เปิดโลกใหม่มาก สำหรับผู้ค้าแข้งตำแหน่งแบ็กขวา

แต่ในแมตซ์ แดงเดือด ปี 2021 กลายเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เจอคำกล่าวว่าด่า วิจารณ์มากที่สุดกว่าใคร เนื่องจากเขานั้นมีการแสดงถึงกับเกมบุกค่อนข้างมาก 

แต่มันเหมือนกับว่าการที่เขาเปิดบอล เป็นอะไรที่น่าเบื่อเกินไป เรดาร์ ในการที่เขาเปิดบอลนั้น ไม่ได้มีอะไรให้ลุ้นกันเลยสักนิด จากทั้งหมดราว ๆ ถึง 10 ครั้ง

– ติอาโก้ ตัวขับเคลื่อนเกมรุก

อีกหนึ่งข้อดี ที่เห็นได้อย่างชัดแจ้งของ หงส์แดง คือที่ทีมมี กองกลางชาวอิตาลี ติอาโก้ อัลคันตาร่า แมตซ์นี้ได้โชว์กายในแบบ 90 นาทีเต็ม ๆ อีกครั้ง และ นี้เป็นเกมแรกของ ศึกแดงเดือด ที่เป็นศึกแบบเป็นทางการ 

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้มีส่วนกับเกมบุก ลิเวอร์พูล มากอย่างพิเศษ เป็นผู้โฮลด์บอล วางบอลไปซ้าย ขวา เพื่อให้แนวรุกสามารถเจาะแนวรับ ของ ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ได้

ติอาโก้ กองกลางชาวอิตาลี คนนี้นั้นไม่ได้มีเพียง เรื่องการจ่ายบอลที่โดดเด่น หรือ สร้างมิติเกมบุกเพียงเท่านั้น เขายังมีส่วนเรื่องการช่วยเกมรับเป็นตัวสำคัญอีกด้วย ช่วยตัดบอล หรือ หยุดเกมรุกของ ปีศาจแดง ได้ในหลาย ๆ ครั้ง จึงนับได้เป็นนักเตะสำคัญกับ ลิเวอร์พูล มาก

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย