ทำให้ต้องเสีย เนย์มาร์ ไปจากทีม

อันที่จริง การที่ได้ตัวของเนย์มาร์ ในปี 2013 ถือเป็นเรื่องของ ดีลที่สุดยอดมาก สำหรับดึงเข้ายาน กับแฟนบอลบาร์เซโลนา และมาจากความร่วมมือระหว่าง ซานโดร โรเซล และบาร์โตเมว ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในกำลังหลัก ที่พาบาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฤดูกาล 2014 – 15 สโมสรประสบความสำเร็จ

ในการคว้า 3 แชมป์ และบาร์ซ่าถูกยอมรับว่า นี่คือทีม ที่มีแนวรุกสามคน MSN ( เมสซี่ , หลุยส์ ซัวเรซ , เนย์มาร์ ) ได้ชื่อว่าน่ากลัว และอันตรายที่สุด ในโลกในเวลานั้น แต่ในปี 2560 เนย์มาร์ตัดสินใจย้ายไป ปารีสแซงต์ – แชร์กแมง ด้วยค่าตัวสถิติโลก 222 ล้านยูโร ท่ามกลางเหตุผลที่ไม่อยากอยู่ภายใต้ร่มเงาของ ลิโอเนล เมสซี

แต่มันเป็นเรื่องจริงแล้ว มันเป็นแผนพลาดของ บาร์โตมิว เพราะเขานึกไม่ถึง สโมสรใดจะยอมให้ราคาของ เนย์มาร์ และเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น บาร์โตมิว ได้ออกมาแก้ไขความอัปยศว่า เป็นความผิดของเนย์มาร์ ที่ไม่จริงใจกับบาร์เซโลน่า

ซึ่งเคยบอกว่าคุณเอง “ เราทำผิดพลาดในการไว้วางใจเนย์มาร์ และพ่อของเขา แต่การจากไปของเขานั้น ยอดเยี่ยมมากสำหรับเราที่จะกลับไปเป็น บาร์เซโลน่าแบบเดิมอีกครั้ง เพื่อลงทุนในตัวผู้เล่น จากสถานศึกษา “

บีบให้ ซัวร์เรส ต้องออกจากทีม

     หลุยส์ ซัวเรซ ไม่ใช่ผู้เล่นที่เติบโต มากับบาร์เซโลน่าตั้งแต่เริ่มต้น แต่ทุกสิ่งที่เขาทำ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่รักมากที่สุด โดยตลอดระยะเวลา 6 ปี ในการสวมเครื่องแบบสีแดงเลือดหมู นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จ ที่ช่วยให้สโมสรได้รับอย่างมากมาย นี่คือผู้ทำประตูสูงสุด เป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลนา

ด้วยการยิง 198 ลูก แต่มันไม่เรื่องน่าจะเกิด กับตัวของ ซัวเรซ ด้วยการ การปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมจากสโมสร  และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เมสซีเพื่อนรักจะฟิวส์ขาด ถึงขั้นประนามพฤติกรรมแย่ ๆ ของบาร์โตเมว และบอร์ดบริหารของบาร์ซ่า พร้อมกับส่งข้อความ ขอลงทะเบียนบัญชีเพื่อย้ายออกจากทีม

สำหรับเมสซี คุณไม่ได้โกรธที่ทีมตัดสินใจ อยากให้ซัวเรซออกไป หรือต้องการให้สโมสรเปลี่ยนใจ ที่จะเก็บนักเตะไว้กับทีม ซึ่งเป็นที่ยอมรับไม่ได้ สโมสรพยายามที่จะสลัดหัวซัวเรซ อย่างไร้ค่า ซึ่งเมสซีมองว่าเป็นเพื่อนรัก ของการอำลาอย่างสมเกียรติ แต่การไล่ออกไปเหมือนหมู เหมือนหมามากกว่า

และหัวหน้าของฉากหลังในเรื่องนี้คือ บาร์โตมิว ซึ่งเขาเองก็เคยพูดออกสื่อด้วยตัวเองเช่นกัน “ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องไป” ทั้งๆที่ซัวเรซแม้จะอายุแค่ 3 ขวบ แต่เขาก็ยังเล่นในระดับที่สูงมากได้อย่างสบาย ๆ และด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้แอตเลติโกมาดริดขึ้นสู่จุดสูงสุด ในลีกปัจจุบัน

เรื่องแย่ๆ ของบาร์โตเมว ทำให้ทีมเสียความเป็น เจ้าบุญทุ่ม

ตั้งแต่ Bartomue ขึ้นเป็นประธานสโมสรเต็มตัว ทั้งที่ Sandro Roselle ซึ่งโดนคดีฟอกเงิน เป็นเรื่องจริง ที่เขามีส่วน ทำให้เขาประสบความสำเร็จตลอดการทำงาน แต่การตัดสินใจหลายครั้ง ทำให้บาร์เซโลนาในวันนี้ ไม่เหมือนบาร์เซโลน่าที่เคยเป็นมา นั่นคือการใช้จ่ายเงินเป็นการแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่าง แท้จริงแล้ว บาร์เซโลน่า

เป็นที่รู้จักในฐานะสโมสร “ เจ้าบุญทุ่ม ” ซึ่งเป็นเพราะว่า ได้มีการเรียนรู้ และสร้างนักเตะดี ๆ  มาจากการปลุกปั้นผลักดัน และมอบผลผลิตของศูนย์เพาะพันธุ์ต่างดาว “ ลามาเซีย ” ซึ่งหากมองในยุคที่ เราแทบไม่เห็นเด็กที่เติบโตมาเป็น ตัวละครหลักของทีม และมีเพียง Ansu Fati เท่านั้น ที่สามารถคาดหวังผลลัพธ์ในอนาคต

เมื่อพูดถึงการใช้จ่ายเงินการย้ายทีมของสตาร์บราซิล ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ อย่างหนึ่งของทีม แต่จนถึงตอนนี้เจ้าบุญทุ่ม ยังไม่สามารถหาคนทดแทนที่แท้จริงได้ พวกเขาใช้เงินหลายร้อยล้านยูโร

ในการตามล่า คูตี้ , เดมเบเล่ , กรีซมันน์ และคนอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ไม่มีใครคุ้มค่ากับการแสดง และไม่ใช่เรื่องแปลกที่  Bartomew จะถูกสาปแช่ง อย่างรุนแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทุกการตัดสินใจ เสียงของเขาถือว่าหนักที่สุด

การตัดสินใจและคัดเลือกบุคลากร

ไม่ต่างจาก เรื่องในหัวข้อก่อน นั่นคือเรื่องของการคัดเลือกบุคลากร นอกจากจะล้มเหลว ในการทุ่มเงินเพื่อค้นหาทายาทของเนย์มาร์แล้ว ยังมีการตัดสินใจอีกหลายอย่าง ช่วงเวลาที่บ่งบอกถึงความผิดพลาดของ Bartomew แน่นอนว่า หลังจากปี 2015 ที่ Barcelona เพื่อไปถึง Triple Championship จำเป็นต้องมีการวางแผนระยะยาว

เพราะนั่นเป็นช่วงที่เจ้าบุญทุ่ม ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่แล้วบาร์โตเมวก็ต้องล้มเหลว เริ่มจากการหา หลุยส์ เอ็นริเก้ มาแทนที่เขาจึงตัดสินใจแต่งตั้ง เฮอร์เน่โต้ เบาเบเด่ เข้ามาแทนที่ แม้ว่าเขาจะทำผลงานได้ดี มีแชมป์ประดับโปรไฟล์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาถูกถามคำถามมากมาย มันคือรูปแบบการทำงานเป็นทีมที่น่าเบื่อ

การเล่นที่กล้าหาญ และเน้นผลลัพธ์มากเกินไป ซึ่งไม่ใช่แนวทาง ที่เป็นสายเลือกของเจ้าบุญทุ่ม และแน่นอนว่าแฟน ๆ ไม่ชอบ ด้วยสิ่งนี้ด้วย สิ่งที่เน้นย้ำ คือ สองปีของรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับโรม่า และลิเวอร์พูล เพราะในทั้งสองปีนั้น บาร์เซโลนามีโอกาสที่สดใสมาก ที่จะผ่านเข้ารอบ หลังจากเอาชนะในเกมแรกด้วยผลต่าง 3 ประตู เมื่อเผชิญหน้ากัน

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย