โมเมนต์ตำนานของ กุน เปิดตัวในฐานะนักเตะของเรือใบ

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ชื่อของ Sergio Aguero กลายเป็นที่รู้จัก อย่างกว้างขวางในหมู่แฟน ๆ สำหรับรูปแบบการเล่น ของการโจมตี ด้วยสีเสื้อ แอตเลติโก มาดริด หลายสโมสรทั่วยุโรป อย่างไรก็ตาม ในที่สุดมันก็กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ทีมที่เข้าร่วมหลักสูตร

โดยที่ในตอนนั้น เป็นทีมระดับของอังกฤษ เป็นทีมชั้นนำของอังกฤษ ซึ่งยังไม่สร้างรางวัลใด ๆ ได้เลย ที่สำคัญแต่ อเกวโร่ เลือกที่จะหาสีสันชีวิตใหม่ และเป็นชุดของผู้เล่น ที่เริ่มต้นเพื่อนำทีม ไปสู่ความสำเร็จ ราคาของเขาในวันนั้น จากทีมตราหมี อยู่ที่ประมาณ 40 ล้านยูโร

ด้วยความคาดหวังของผู้สนับสนุน ว่าเขาจะก้าวเข้ามา เพื่อแสวงหาความสำเร็จ อย่างมีความหวัง นำถ้วยรางวัลแชมป์ต่าง ๆ มาให้กับทีม พร้อมทำให้เรือใบนี้ มุ่งไปเป็นทีมระดับท็อปของ แห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ และสร้างบทบาทให้กับทีม

ความสำเร็จครั้งแรกและประตูแห่งความทรงจำ

ปีแรกในวงการฟุตบอลอังกฤษ อเกวโร่ สอบผ่านอย่างไม่ยากเย็น ที่ผงาดออกมา ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนาม เพราะเหมาคนเดียว 2 ตุง กับ 1 แอสซิสต์ จากการทำหน้าที่ แทนที่ลงเตะเพียง 30 นาทีเท่านั้น ไม่นานหลังจากนั้น เพียงเกมที่ 4 ของพรีเมียร์ลีก

เอลกุน สามารถทำแฮตทริก ในเกมเปิดรังเหย้า ต้อนรับทีมอย่าง วีแกน แอธเลติก 3 – 0 แต่ฉากที่แฟนบอลทุก ๆ คน น่าจะจำฝังใจ คือ ของปี 2011 – 12 ซึ่งเป็นเกมปิดซีซั่น กับควีนปาร์ค เรนเจอร์ส โดยที่เดมนี้ ยังคงกลายเป็นเกมที่ทุกคน จำได้ไม่ลืม

โดยมีเงื่อนไขในเกมนั้นว่า ” เรือใบสีฟ้า ” ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น เพื่อล้มแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก ของสโมสร นาฬิกาบอกเวลาว่าจะเข้าสู่นาทีที่ 90 + 4 และคะแนนยังเสมอกันที่ 2 – 2 แน่นอนว่าหากเป่านกหวีดนานขึ้น Come พวกเขาจะอกหักทันที

แต่ในจังหวะนั้น มาริโอ บาโลเตลลี จ่ายบอลให้ อเกวโร่ สไลด์บอลด้วยขวาผ่านมือ ผู้รักษาประตูของฝ่ายตรงข้าม และได้ถูกจารึก เขาคือคนที่พาทีมได้แชมป์ ลบคำสบประมาทจากแฟนบอล จำนวนมาก ที่บอกว่าพวกเขาทุ่มเงิน ไปกับความสำเร็จ

โดยรวมแล้ว อเกวโร่ยิงไป 30 ตุง ในซีซั่นแรก จากการลงเล่น 48 เกม ในทุกรายการโดยอยู่ในอันดับที่สาม ในชาร์ตผู้ทำประตูพรีเมียร์ลีก หากจะเกิดเรื่องโชคร้าย สิ่งเดียวที่ต้องเสียใจ คือ เขาไม่ได้อยู่ในทีมระดับท็อป ในฤดูกาลนั้น แต่ความสำเร็จนั้น ได้เกาะกินจิตใจของเขาอยู่แล้ว

ผู้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก

หลังจากเล่นในลีก มาระยะหนึ่ง และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 2 สมัย ในช่วงซีซั่น 2011 – 12 และ 2013 – 14 แต่สิ่งหนึ่งที่ยังขาดหายไป ทำให้กระบวนการทั้งหมด มันไม่สมบูรณ์ คือ การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ซูวูสตาร์ของลีกนั่นเอง ก่อนที่จะได้รับรางวัลนั้น

อเกวโร่ได้สำเร็จในฤดูกาล 2014 – 15 แต่ต้องกลับกลายเป็นเศร้า เพราะพาทีมจบเป็นรองแชมป์ ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “พี่เป่า” ยิงไปทั้งหมด 26 ประตู ในการยิงประตู ซึ่งในเกมนี้เขาได้จารึกชื่อ ด้วยการเหมาคนเดียว 4 ประตู ในเกมเปิดบ้านชนะสเปอร์ส 4 – 1

รวมถึงยิง 3 ตุง อีกครั้งในการถล่ม ควีนปาร์คเรนเจอร์ส 6 – 0 แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บรบกวนในช่วงกลางซีซั่น แต่ก็ไม่สามารถหยุดความสำเร็จส่วนตัวนี้ได้ แต่ดูเหมือนจะผิดแผนไปพอสมควรเลยในปีนั้นทั้ง ๆ ที่เขาสามารถคว้าแชมป์ เป็นผู้ทำประตูสูงสุดได้และ แมนฯ ซิตี้

ก็ลงเอยด้วยการเป็นรองแชมป์ แต่เมื่อมีการประกาศให้ทีมพีเอฟเอ เข้าถึงกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์รายนี้กลับสนใจ แต่ ดิเอโก คอสตา และ แฮร์รี่ เคน ที่จะคว้าแชมป์แทน ซึ่งเป็นเพียง 1 ครั้ง และเป็นครั้งสุดท้าย ที่อเกวโร่เข้ารับตำแหน่ง และเป็นผู้ทำประตูในลีก เพราะตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของชาร์ตดาวยิงได้อีกเลย

ซัด 5 ประตูในเกมเดียว

หากเป็นแนวหน้าแล้วการทำประตู คือ สิ่งที่ควร ถือเป็นงานหลักของพวกเขา แต่สิ่งที่ยากยิ่งไปกว่านั้นคือ การยิงคน ๆ เดียวด้วยห้าประตูในเกมเดียว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2558 เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ แมนซิตี้ เปิดบ้านพบสาลิกาดง บอกว่าผู้มาเยือนจัดการดึงเคราเสือก่อน ในรูปแบบที่ไม่รู้ว่าภัยพิบัติจะมาถึงในไม่ช้า

ในนาทีที่ 41 ถึง 61 ราชนาวี “เรือใบสีฟ้า” สามารถกระทุ้งไป 6 ประตูต่อเนื่องนำไปเรื่อย ๆ บวกกับ 5 จาก 6 ประตูจากชายที่ชื่อเซร์คิโออเกวโร่ นับเป็นการกลับมาเป็นนักเตะอีกครั้งของเขา คนที่เหมาห้าประตูในเวลาเพียง 90 นาที ในลีกตามหลัง Andy Cole, Alan Shearer, Jermain Defoe and Dimitar Berbatov

รูปปั้นหน้าสนาม

อเกวโร่ ที่แมนซิตี้ ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวจะย้ายไปร่วมทีม เมื่อสิ้นสุดซีซั่นนี้ แต่สโมสรได้เตรียมรูปปั้น เพื่อยกย่องวีรกรรมของพวกเขา ของฮีโร่คนนี้อย่างสมเกียรติหลังจากรับใช้ทีมมา 10 ปี และพาทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมาย

ในเรื่องนี้ คาลดุนอัล – มูบารัค ประธานสโมสร ได้ยืนยันด้วยตัวเองว่าจะนำรูปปั้นของ “กุน” ไปวางไว้หน้าสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เคียงข้างกับ วินเซนต์ ฟานกัล , กอมปานี และ ดาวิด ซิลวา สองตำนานของทีม

“ เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า เราได้ขอให้สร้างรูปปั้นของ เซอร์จิโอ เพื่อที่เขาจะได้อยู่ที่สนามกีฬา เอทิฮัด พร้อมกับรูปปั้นวินเซนต์ และเดวิดกำลังสร้างอยู่ในขณะนี้ เราคาดว่าจะมีโอกาสจัดพิธีอำลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เซอร์จิโอเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล”

เชื่อว่าฉากสุดท้ายถ้าเป็นไปได้สโมสรเองก็อยากให้แฟนบอลเข้าสนาม เป็นการอำลาตำนานครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นเกียรติแก่ความยิ่งใหญ่และเฉลิมฉลองความสำเร็จร่วมกัน

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย