5 กุนซือใหม่ สเปอร์ส หากน้ามูโดนเด้ง ถ้าฟอร์มยังคงแย่

     5 กุนซือใหม่ สเปอร์ส ที่ตอนนี้นั้นเส้นทางของ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้าสู่ช่วงที่ ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ได้โดยเร็วที่สุด กับชีวิตที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสปอร์ การแพ้ถึง 5 จาก 6 เกมหลังสุด และเก็บชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น บวกกับโอกาสการลุ้นแชมป์ ที่นับวันยิ่งเลือนลางขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้อนาคตของเขา ถูกตั้งคำถามว่าจะไปรอดหรือไม่ ในฤดูกาล 2020 – 21 

5 กุนซือใหม่ สเปอร์ส

สกอตต์ พาร์เกอร์

     สำหรับ สก็อตต์ ปาร์กเกอร์ ในสมัยยังค้าแข้ง เขาคือ 1 ในชุดนักเตะ ที่ดีที่สุดของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตอนปี 2011 – 13 แต่ตอนนี้กำลังดิ้นรน เพื่อเป้าหมายใด ๆ เพื่อให้ ” เจ้าสัว ” ฟูแล่ม อยู่รอดในเวทีพรีเมียร์ลีกต่อไป ในฤดูกาลหน้า

ด้วยชื่อของเขาในตอนนี้ ที่ปรากฏเป็นหนึ่งในตัวสำรอง เพื่อรับงาน โชเซ่มู รินโญ่ ในแคมป์ ” ไก่เดือยทอง ” หลายคนคงสงสัยว่า มันจะดูเสี่ยงเกินไป หรือไม่หากสเปอร์สตัดสินใจ แต่งตั้งผู้จัดการทีม สก็อต ปาร์คเกอร์ ขึ้นมา

คำตอบคือใช่ เพราะสถานะของเขา เขายังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้จัดการมือใหม่ ที่เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นาน แต่จำไว้ว่า ปาร์กเกอร์อยู่ที่ฟูแล่มในวันที่ตกชั้น ด้วยการลองผิดลองถูก และในเวลาเพียงปีเดียว เขาก็สามารถนำสโมสร

ที่เลื่อนชั้นกลับมา สู่ตำแหน่งสูงสุดของลีก ได้อีกครั้ง ด้วยตัวนักเตะที่มีอยู่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขา ได้รับการยกย่องอย่างมาก บางทีถ้าปาร์กเกอร์ มีโอกาสได้ร่วมงาน กับทีมที่มีชื่อดีกว่าฟูแล่ม ก็มีพรสวรรค์ที่ดีกว่า และมีเงินให้จับจ่ายมากขึ้น มันอาจทำให้เขา กลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่น่าจับตามอง

มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี

     ชื่อของ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี จะเชื่อมโยง กับสโมสรชั้นนำทั้งหมด ที่มีผลงานต่ำกว่า และมีสิทธิ์ได้รับการเปลี่ยนแปลง ในตำแหน่งผู้จัดการ สิ่งที่เป็นเช่นนั้นหลัก ๆ แล้วยังว่างงานอยู่ ส่วนโปรไฟล์ของอัลเลกรี คงไม่ต้องถกกันมาก

เนื่องจากประสบการณ์ ในเส้นทางการฝึกสอน ถือว่าเก๋า และมีการนำเรื่องราวความสำเร็จ เข้ามาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นกับ เอซี มิลาน หรือ ยูเวนตุส สำหรับ อัลเลกรี เขาไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่มีกลยุทธ์ตายตัว

แต่สิ่งที่เขาน่าถูกพูดถึง คือ การแก้ไขปัญหาได้ดี ระบบสามารถจัดสรรได้ ด้วยกำลังไฟเท่าที่มี และยังให้ประสิทธิภาพที่ดีอีกด้วย การทำงานในพรีเมียร์ลีก เป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาอยากทำ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต หากการย้ายมาสเปอร์เกิดขึ้นจริง คงจะน่าสนใจ และน่าจะเป็นที่ฮือฮา  เพราะที่ผ่านมาชาวอิตาลี ส่วนใหญ่ทำผลงานได้ดีบนเวทีนี้ นั่นเอง

เอดดี้ ฮาว

     ถึงจะ ไม่เคยได้มีการ ร่วมงานกับทีมที่ใหญ่ ๆ มาก่อน แต่ Eddie Howe ก็ได้รับคำชมมากมาย เช่นกัน ยิ่งสำหรับการเป็นผู้นำ ที่ทะเยอทะยานของเขาใน บอร์นมัธ จากลีก ระดับ 4 ของอังกฤษ ไปจนถึงเวที

พรีเมียร์ลีกประสบความสำเร็จด้วยนักเตะ ที่ไม่มีแม้ชื่อเสียง ที่อยู่ในเกรด C หรือ D และด้วยรูปแบบการทำงาน เป็นทีมที่น่าสนใจ รวมถึงผลงานในบางนัด ที่สามารถต่อสู้ และเอาชนะทีมใหญ่ได้

มันทำให้เขามีชื่อ ของผู้จัดการหนุ่มคนนี้ ที่กำลังร้อนแรง สำหรับสถานะปัจจุบัน Eddy Howe กำลังว่างงาน หลังจากแยกย้ายกับทีมเก่า เมื่อปีที่แล้วและตอนนี้เมื่อเผชิญกับอัตราเดิมพันตามกฎหมายระหว่างประเทศเขาเป็นคนโปรดอันดับ 3 ที่จะมาแทนที่โชเซ่มูรินโญ่ที่ท็อตแนมฮอตสเปอร์

จูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์

     บางที Julian Nagelsmann อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำ ในอุตสาหกรรม เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวเขา ในเวลาเพียงห้าปี เขาทำให้วงการลูกหนังตกตะลึง ด้วยการเป็นผู้จัดการของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วยวัยเพียง 28 ปี เขาสามารถรอดพ้นจากการตกชั้น ในปี 2015 – 16 และในปีถัดมา ทำให้ฮอฟเฟนไฮม์ คว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือก เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์สโมสร

ปัจจุบัน Julian Nagelsmann ยกระดับตัวเองขึ้นมาก ด้วยคำสั่งของทีมอย่าง RB Leipzig และสร้างต้นสังกัด ให้กลายเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำ ของยุโรปอย่างเต็มตัว เพื่อคว้าแชมป์บุนเดสลีกาอย่างเต็ม ที่ตลอดช่วงที่ผ่านมา และที่จุดสูงสุด คือ การพาไลป์ซิกผจญภัย

ไปจนถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ของยูซีแอล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นี่เป็นผลงาน และโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ของชายคนนี้ และไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับชื่อของ นาเกิ้ลมันส์ จะกลายเป็นข่าว ที่เกี่ยวข้องกับทีมชั้นนำ อยู่มากมาย

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

      แม้เขาจะยังมีผลงาน และทำได้ดี สำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในการพา เลสเตอร์ ซิตี้ เข้าชิงพื้นที่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ตอนนี้ ชื่อของเขากลายเป็นเต็ง 1 ในรายชื่อผู้ที่จะเข้ามา เหนือกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ที่สเปอร์ โดย ” บีร็อด ” ได้รับการยกย่องอย่างมาก เป็นโค้ชที่ทำให้ทีมเล่นเกมรุก ได้อย่างน่าพอใจ เขาได้พิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็นแล้ว จากอาชีพลิเวอร์พูล

จากนั้นก็สู่ กลาสโกว์ เซลติก และกับ เลสเตอร์ ในปัจจุบัน อาจจะเป็นไปได้ คค่อนข้างจะลำบากสักนิด เพราะด้วยที่ว่า ตอนนี้นั้น เจ้าตัวมีฟอร์มที่คงเส้น คงวามาก ๆ กับ ” จิ้งจอกสยาม ” มีเป้าหมายที่หวังไว้มากมาย ถ้าย้ายทีมจริง ๆ มันไม่น่าเกิดขึ้น กลางฤดูกาล ถ้ารอให้จบก่อนจะเป็นยังไง ก็ต้องว่ากันอีกที 

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufa285s เว็บ แทงบอล อันดับ1 ของไทย